เมนู

[463] อีกประการหนึ่ง มาตุคามมีระดู อันนี้เป็นความทุกข์
แผนกหนึ่งของมาตุคามข้อที่ 2 ที่ตนจะต้องเสวย เว้นจากบุรุษ.
[464] อีกประการหนึ่ง มาตุคามมีครรภ์ อันนี้เป็นความทุกข์
แผนกหนึ่งของมาตุคามข้อที่ 3 ที่ตนจะต้องเสวย เว้นจากบุรุษ.
[465] อีกประการหนึ่ง มาตุคามคลอดบุตร อันนี้เป็นความ
ทุกข์แผนกหนึ่งของมาตุคามข้อที่ 4 ที่ตนจะต้องเสวย เว้นจากบุรุษ.
[466] อีกประการหนึ่ง มาตุคามเข้าถึงความเป็นหญิงบำเรอ
ของบุรุษ อันนี้เป็นความทุกข์แผนกหนึ่งของมาตุคามข้อที่ 5 ที่ตนจะต้อง
เสวยเว้นจากบุรุษ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความทุกข์แผนกหนึ่งของมาตุคาม
ที่ตนจะต้องเสวย เว้นจากบุรุษ 5 อย่างนี้แล.
จบ อาเวณิกสูตรที่ 3

อรรถกถาอาเวณิกสูตรที่ 3



พึงทราบวินิจฉัยในอาเวณิกสูตรที่ 3 ดังต่อไปนี้.
บทว่า อาเวณิกานิ ความว่า ทุกข์เฉพาะบุคคลคือไม่ทั่วไปด้วย
พวกบุรุษ. บทว่า ปาริจริยํ คือมาตุคามย่อมเข้าถึงความเป็นหญิงบำเรอ.
จบ อรรถกถาอาเวณิกสูตรที่ 3

4. มาตุคามสูตร



ว่าด้วยมาตุคามผู้ประกอบด้วยธรรม 3 ประการ ย่อมเข้าถึงอบาย



[467] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มาตุคามผู้ประกอบด้วยธรรม 3
ประการ โดยมากเมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต
นรก ธรรม 3 ประการเป็นไฉน. คือ มาตุคามในโลกนี้ เวลาเช้ามีใจ
อันมลทิน คือความตระหนี่กลุ้มรุมแล้วอยู่ครองเรือน เวลาเที่ยงมีใจอัน
ความริษยากลุ้มรุมแล้วอยู่ครองเรือน เวลาเย็นมีใจอันกามราคะกลุ้มรุมแล้ว
อยู่ครองเรือน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มาตุคามผู้ประกอบด้วยธรรม 3 ประ-
การนี้แล โดยมากเมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึง อบาย ทุคติ วินิบาต
นรก.
จบ มาตุคามสูตรที่ 4

อรรถกถามาตุคามสูตรที่ 4



พึงทราบวินิจฉัยในมาตุคามสูตรที่ 4 ดังต่อไปนี้
บทว่า มจฺเฉรมลปริยุฏฐิเตน ความว่า ก็ในเวลาเช้า มาตุคาม
ปรารภเพื่อจะทำการงานที่มีกังวลอยู่ในน้ำนม นมส้มและการหุงเป็นต้น.
แม้บุตรน้อยทั้งหลาย ร้องขออยู่ ย่อมไม่ปรารถนาเพื่อจะให้อะไร. ด้วย
เหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัสคำนั้นว่า เวลาเช้า มีใจอันมลทิน
คือความตระหนี่กลุ้มรุมแล้ว. ส่วนเวลาเที่ยงมาตุคาม ย่อมถูกความโกรธ
ครอบงำ. เมื่อไม่ได้ทะเลาะกันภายในเรือน ก็ย่อมทำการทะเลาะกันใน